รีพอร์ต
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดกับเลสเตอร์ ซิตี้เสมอกันด้วยสกอร์ 1 – 1 อันเต็มไปด้วยความสนุกตื่นเต้น, พาสชั่น และดราม่า ซึ่งถือเป็นผลการแข่งขันที่อาจไม่น่าพอใจสำหรับทั้ง 2 สโมสร
อ็องโตนี่ มาร์กซิอัล และ เวส มอร์แกน ทำประตูได้ในครึ่งแรก ซึ่งเป็นสกอร์เดียวกับเกมแรกที่พบกันที่คิง พาวเวอร์ สเตเดี้ยม เมื่อเดือนพฤศจิกายน ทำให้ความหวังของทีมปีศาจแดงที่จะจบอันดับท็อป 4 พรีเมียร์ ลีกเริ่มยากขึ้นทุกที ในขณะที่เหลือการแข่งขันอีกแค่ 3 เกม ขณะที่ทีมสุนัขจิ้งจอกซึ่งหากเก็บชัยชนะที่โอลด์ แทรฟฟอร์ดได้จะคว้าแชมป์ก็ยังต้องเก็บแชมเปญเอาไว้ฉลองกันในโอกาสต่อไป
ด้วยความที่โปรแกรมเตะนี้มีความเป็นไปได้ที่เลสเตอร์จะฉลองแชมป์ ทำให้ผู้สื่อข่าวต่างแห่กันมาเต็มสนามเพื่อรายงานเรื่องราวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในวงการกีฬา อดีตผู้จัดการทีมชาติอังกฤษอย่าง ฟาบิโอ คาเปลโล่ ก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วย โดยตอนนี้เขาทำงานให้กับสถานีโทรทัศนย์ของอิตาลี ขณะที่ในบ็อกซ์ผู้บริหารก็ได้ต้อนรับ เอริก คันโตน่า ตำนานของสโมสรที่มาในมาดเคราเฟิ้ม แม้แต่ร็อคสตาร์ซึ่งเป็นมือกีตาร์วงคาซาเบียนและแฟนบอลทีมจิ้งจอกอย่าง แซร์จิโอ ปิซซอร์โน่ ก็เข้ามานั่งปะปนกับแฟนๆ ในเกมนี้ด้วยเช่นกัน
หลุยส์ ฟาน กัล ได้บอกเอาไว้ก่อนเกมว่านักเตะของเขาจะไม่ยอมให้เลสเตอร์มาฉลองแชมป์กันที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด และทีมปีศาจแดงก็แสดงให้เห็นเช่นนั้นจริงๆ ด้วยการเริ่มต้นเกมที่ยอดเยี่ยม นำมาสู่ประตูขึ้นนำในนาทีที่ 8 จากมาร์กซิอัลที่เข้าถึงลูกครอสของ อันโตนิโอ วาเลนเซีย เขายิงเลียดผ่านมือ แคสเปอร์ ชไมเคิล เข้าไป ถือเป็นประตูที่ 15 ในฤดูกาลสำหรับดาวยิงวัย 15 ปี และนั่นหมายความว่าเขาได้กลายเป็นดาวซัลโวสูงสุดของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดในฤดูกาลนี้ไปแล้ว
เลสเตอร์พยายามตอบโต้อย่างหนักด้วยสปิริตอันแรงกล้า และก็มาทวงประตูคืนได้อย่างรวดเร็ว กัปตันมอร์แกนสลัดหนีตัวประกบ มาร์กอส โรโฮ โขกลูกฟรีคิกจาก แดเนียล ดริงค์วอเตอร์ ผ่านมือ ดาบิด เด เคอา เข้าไปในนาทีที่ 17 เรียกเสียงเฮจากแฟนบอลทีมเยือน 3,000 คนที่เดินทางเข้ามาชมเกมในสนาม
ยังมีโอกาสอีกสำหรับทั้ง 2 ทีมก่อนจบครึ่งแรก เจสซี่ ลินการ์ด และ มารูยาน เฟลไลนี่ ได้ยิงให้ชไมเคิลต้องออกแรงเซฟ ขณะที่ เจฟฟรี่ย์ ชลุปป์ ยิงแฉลบหลุดกรอบออกไป จากจังหวะจ่ายมาให้ของ ริยาด มาห์เรซ ซึ่งเจ้าของรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของพีเอฟเอรายนี้ก็เกือบจะเรียกจุดโทษได้ด้วย เมื่อเขาถูกโรโฮปะทะล้มลงในนาทีที่ 39
ครึ่งหลังเริ่มต้นขึ้นด้วยความสนุก มอร์แกนเอาชนะโรโฮในการดวลกลางอากาศ ก่อนที่จะได้โขกไปตรงตัวเด เคอา จากนั้นมาร์กซิอัลก็ได้ยิงด้วยขวาข้ามคานออกไป ขณะที่อดีตนักเตะปีศาจแดงอย่าง แดนนี่ ซิมป์สัน ได้ครอสบอลเข้าสู่เขต 6 หลา ในนาทีที่ 51 แต่เพื่อนร่วมทีมชาวญี่ปุ่นอย่าง ชินจิ โอกาซากิ ก็ไม่สามารถส่งบอลเข้าสู่ก้นตาข่ายได้
ใบเหลืองเริ่มปลิวว่อน และคนที่ถูกจดชื่อไปก็คือลินการ์ด, ไมเคิล คาร์ริค และอดีตแข้งแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดอีกคนอย่างดริงค์วอเตอร์ ถึงตรงนี้ทั้ง 2 ฝั่งต่างก็ต่อเกมกันไม่ค่อยติด การสร้างสรรค์เกมเป็นสิ่งที่ขาดหายไป ฟาน กัลจึงเปลี่ยนตัว ฮวน มาต้า ลงสนามในนาทีที่ 61 ถือเป็นการลงเล่นนัดที่ 100 ของเขาในฐานะนักเตะปีศาจแดง
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเปิดเกมบุกอย่างต่อเนื่อง เฟลไลนี่ได้โขกหลุดกรอบจากจังหวะเตะมุมของ ดาลี่ย์ บลินด์ ก่อนที่มาห์เรซจะได้ยิงจากระยะ 20 หลาไปเข้ามือเด เคอา ขณะที่เวลาเดินทางมาถึงนาทีที่ 78 และการแข่งขันก็ใกล้เข้าสู่ช่วงสุดท้ายเข้าไปทุกที คริส สมอลลิ่ง ก็ได้โขกลูกครอสจาก เวย์น รูนี่ย์ ผ่านมือชไมเคิลไปชนเสาออกหลังอย่างน่าเสียดาย
ดริงค์วอเตอร์มาถูกไล่ออกจากการโดนใบเหลืองที่ 2 ในนาทีที่ 87 หลังจากไปทำฟาวล์ตัวสำรอง เมมฟิส เดปาย ที่บริเวณกรอบเขตโทษ และชไมเคิลก็ต้องออกแรงเซฟลูกฟรีคิกจังหวะนั้นจากรูนี่ย์ ไม่กี่วินาทีต่อมา ลูกชายของ ปีเตอร์ ชไมเคิล ก็ทำให้กัปตันแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดต้องผิดหวังอีกครั้งด้วยการปฏิเสธลูกยิงปั่นโค้งของเขาจากระยะ 25 หลา และนั่นก็เป็นจังหวะลุ้นครั้งสุดท้ายของเกมนี้ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด
สถิติ